๏Arunvithaya ๏Arunvithaya"5"๏
A.V. 5 เก่ง กล้า ทุก คน ^^
 
 ช่วยเหลือช่วยเหลือ   ค้นหาค้นหา   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก   กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register) 
 ข้อมูลส่วนตัว(Profile)ข้อมูลส่วนตัว(Profile)   เข้าสู่ระบบเพื่ออ่านข้อความส่วนตัวเข้าสู่ระบบเพื่ออ่านข้อความส่วนตัว   เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in) 

Important Notice: We regret to inform you that our free phpBB forum hosting service will be discontinued by the end of June 30, 2024. If you wish to migrate to our paid hosting service, please contact billing@hostonnet.com.
6แฟชั่นอันตราย

 
สร้างหัวข้อใหม่   ตอบ    ๏Arunvithaya"5"๏ -> ความรู้ต่างๆ
อ่านหัวข้อก่อนหน้า :: อ่านหัวข้อถัดไป  
ผู้ตั้ง ข้อความ
kwang-jitpisut
Dek_AV5_ตัวจริง


เข้าร่วม: 13 Jan 2009
ตอบ: 44
ที่อยู่: ร้านใครหนออร่อยนะค่ะเพื่อนๆ

ตอบตอบเมื่อ: Thu Apr 23, 2009 5:06 am    เรื่อง: 6แฟชั่นอันตราย ตอบโดยอ้างข้อความ

ไปเห็นมา...มาจากเว็บเด็กดีที่เป็นสมาชิกประจำการอยู่
เห็นว่าทั้งสวย สยอง และเกี่ยวกับนานาชาติดี เลยอยากมาผากแชร์กันค่ะ
ใครอ่านแล้วอยากลองมั่ง อยากลืมส่งรูปมาให้ดู อิอิ

(บทความนี้ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ในเว็บเด็กดีทางอีเมล์ไปแล้วนะค่ะ ^^)



พอดีผมไปอ่าน "โศกนาฏกรรมความงาม เมื่อสวยเลือกไม่ได้"มา เออ น่าสนดีเลยเอามาฝาก

ถ้าใครเคยดูหนังดูการ์ตูนเกี่ยวกับสังคมไอโซในยุคยุโรปกลาง คุณคงเห็นแฟชั่นที่เลิศหรู อลังการ แบบพวกคนชั้นสูง เจ้าชาย เจ้าหญิงนำมาประชันกันในงานสรรสรรค์ งานเลี้ยง จนคุณต้องอิจฉาตาร้อนกับความอลังการเหล่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่าแฟชั่นค่านิยมแบบนี้มันแฝงไปด้วยอันตราย และเรื่องน่ากลัวอยู่เยอะเหมือนกัน ซึ่งถ้าคุณประมาทละก็คุณอาจตายได้

วันนี้ก็มี 6 อันดับมาฝาก เป็นแฟชั่นสมัยก่อน หรู อลังการมาก จนไม่น่าเชื่อว่ามันมีเรื่องน่ากลัวเกี่ยวกับตัวมันด้วย

อันดับ 6 คริโนไลน์(crinoline)



คริโนไลน์(crinoline) เป็นกระโปรงที่สวมบนสุ่ม (เพื่อให้กระโปรงบานออก) เป็นชุดที่มีกระโปรงบานๆ บานมากบานจนเหมือนสุ่มไก่บ้านเราโดยเขาจะทำเป็นโครงให้ให้มันบานใหญ่ โดยโครงทำมาจากมันทำจากขนม้า, เส้นป่าน หรือเหล็ก ซึ่งมันได้รับความนิยมในหมู่คนชั้นสูงในศตวรรษที่ 19

ทำไมมันถึงน่ากลัว?

การออกแบบคริโนไลน์ของมันตอบสนองได้ดีทีเดียวเลยแหละเมื่อมีลมแรงๆ มาพัดอย่างกะทันหัน กระโปรงบานๆ ของเจ้าหล่อนจะถูกพัดเหมือนกับร่ม(กาง)ที่ปลิวของลมนั้นแหละ มีหลายรายถูกลมพัดดันให้ตกจากที่สูง(ที่ออกงานของพวกเธออยู่ที่สูงๆ ทั้งสิ้นนี้) และบางรายเพราะหายใจไม่ออกเพราะลมพัดแรงจนโครงเหล็กรัดตัวเธอจนกระดูกหัก บางรายกระโปรงเกิดไปเกี่ยวกับรถม้าและลากผู้หญิงที่ส่งเสียงร้องกรี๊ดตามท้องถนน แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือกระโปรงนี้ติดไฟง่ายสุดๆ และเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ตายเพราะกระโปรงตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1863 ในSantiago ประเทศซิลี ในอเมริกาใต้ มีคนตายกว่า 2000 - 3000 คน ในขณะไฟไหม้โบสถ์ เมื่อไฟผ้าคลุมหน้าต่างโบสถ์เกิดติดไฟ ผู้คนต่างพยายามหนีตายหาทางออกจากประตู แต่เจ้ากรรม ด้วยความกว้างของกระโปรงบานของเจ้าหล่อนดันไปขว้างติดประตูซะนี้(กระโปรงดันใหญ่กว่าประตู)) แถมเอาออกยากซะด้วยสิเพราะมันทำจากโครงเหล็กนี้น่า ซึ่งมันทำให้ทางออกถูกปิดโดยสิ้นเชิง ที่นี้ก็ลองคิดละกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...ก็ตายยกหมู่สิ





อันดับ 5 เดอะ คอร์ซิท (The Corset)

เดอะ คอร์ซิท (The Corset) เป็นเสื้อรัดลำตัวสตรี,เสื้อยกทรงรัดรูปของสตรี และชุดชั้นในผู้หญิงที่สวมเพื่อให้สะโพกและหน้าอกเข้ารูปทรง นิยมในช่วงทศวรรษที่ 1830-1839 สมัยวิกตอเรียนที่ตั้งกฎเกณฑ์ศิลธรรมให้ผู้หญิงต้องสั่ง ไม่สั่งถือว่าผู้หญิงคนนั้นสกปรก ต่ำต้อย ไม่มีมารยาทและไม่มีศิลธรรม และสมัยศตวรรษที่ 19นิยมให้สตรีมีเอวคอดกิ่ว อกตั้ง ทำให้เสื้อนี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว





ทำไมมันถึงน่ากลัว?

เนื่องจากการใส่คอร์ซิทต้องรัดแน่นมากๆ แน่นจนทำให้กระดูกผิดรูป หรือเราเรียกว่าเอวคอด ซี่โครงจะเจ็บปวดชา อวัยวะเครื่องในจะถูกเคลื่อนย้ายลงต่ำมาถึงก้น ทั้งเป็นสาเหตุให้การไหลของเลือดภายในผิดปกติ ใน1903 มีผู้หญิงที่ตายทันทีเพราะเสื้อรัดลำตัวสตรีที่เป็นเหล็กกระแทกหัวใจของเธอ แต่กระนั้นแฟชั่นนี้ก็ถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบันมาเป็นชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ออกศึกที่นิยมของสาวๆ ทั้งหลาย




_________________
ขึ้นไปข้างบน
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ชมเว็บส่วนตัว
kwang-jitpisut
Dek_AV5_ตัวจริง


เข้าร่วม: 13 Jan 2009
ตอบ: 44
ที่อยู่: ร้านใครหนออร่อยนะค่ะเพื่อนๆ

ตอบตอบเมื่อ: Thu Apr 23, 2009 5:07 am    เรื่อง: ตอบโดยอ้างข้อความ

อันดับ 4 ฟุตบาดดิ้ง (Footbinding)

ฟุตบาดดิ้ง (Footbinding) เป็นการพันเท้าผู้หญิงให้เป็นรูปดอกบัว เป็นประเพณีปฏิบัติของผู้หญิงจีนโบราณ ซึ่งเป็นที่นิยมในจีนสมัยศตวรรษที่ 8 โดยมันเริ่มมาจากสมัยก่อนจักรพรรดิ์มีเมียหลายคน แต่ไม่ค่อยมีเวลาเอาใจใส่กับเมียน้อยเหล่านี้มากนัก ทำให้หลายนางแอบไปมีชู้ จักรพรรดิจึงใช้วิธีป้องกันโดยการรัดเท้าเพื่อให้พวกเธอเดินเหินไม่สะดวก ซึ่งต่อมากลายเป็นค่านิยมที่ผู้หญิงในวังต้องวัดเท้า ชาวบ้านก็นึกว่าเป็นแฟชั่นของไฮโซเลยทำตามบ้าง จึงกลายเป็นค่านิยมของจีนในที่สุด โดยเกิดวลีว่า "ผู้หญิงที่เท้าเล็ก ยิ่งเซ็กซี่"



ทำไมมันถึงน่ากลัว?

กระบวนการพันเท้านั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 5-6 ขวบ โดยคนเป็นแม่จะใช้วิธี หักนิ้วน้อย ๆ สี่นิ้ว แล้วงอย้อนกลับไปทางด้านหลัง แล้วก็เอาผ้ามาพันเอาไว้ โดยจะพันแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนได้เท้าที่เล็กตามต้องการ(บางตำราก็เขียนว่าให้เอาเท้าแช่ปัสสาวะและกระเพาะแพะ) นอกจากนี้ผู้ที่ทำการพันเท้า กล้ามเนื้อตั้งแต่บริเวณสะโพกลงไปจะต้องเกร็งมากในการเดินแต่ละครั้ง เมื่อเยื้องย่างด้วยท่าอ้อนแอ้นแลดูสวยงาม จะเกิดความเจ็บปวดแสนสาหัส ราวเข็มพันเล่มกระหน่ำแทงพวกเธอราวกับขุนนรกโลกันต์ เท้าที่ถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา กลิ่นจะเหม็นมากๆ จนเป็นแผลเน่า และเลวร้ายที่สุดคือเธอไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกเกิดมีไฟไหม้บ้าน โจรมาข่มขืนละก็คงแล้วแต่ดวงแหละเพราะหนีไม่ได้...เหอๆ





อันดับ 3 ฟองตางเก (The Fontange)

ผมทรงฟองตางเก(The Fontange) เป็นการทำเกล้าให้ผมสูงไว้กลางศีรษะ มัดโบเล็กๆ หลายอันด้านหน้า จากนั้นประกบด้วยลูกไม้จีบและมัดมวยผมเป็นแผง 3 - 4 ชั้น วนไล่ขึ้นไปเป็นยอด ด้านหลังกับด้านข้างทิ้งปอยหยิกห้อยและผูกโบว์ยาวซึ่งยิ่งผมสูงยิ่งดีแสดงถึงฐานะ โดยแฟชั่นนี้นิยมในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 -18







ทำไมมันถึงน่ากลัว?

ทรงผมนี้มันติดไฟง่ายครับ ยิ่งงานราตรีที่มีโคมไฟระยิบระย้ายิ่งติดไฟง่ายไปใหญ่แถมเวลาไฟติดบนหัวของเจ้าหล่อนละก็ตัดยากสุดๆ เพราะหัวเธอเต็มไปด้วยวัสดุติดไฟง่ายทั้งนั้น และจากผมก็จะลามมาถึงคอและหน้าและมือ จากสาวสวยกลายเป็นสุเทพ สีใสทันที ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นกับ Angelique de Fontanges ชู้รักคนโปรดของกษัตริย์อังกฤษคนหนึ่งที่ตายเพราะทรงผมของเธอตัดไปโดนเทียนทำให้หัวของเธอติดไฟ

อันดับ 2 ลีด เมคอัพ(Lead Makeup)

เป็นการทำให้หน้าขาวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของตะกั่ว ว่ากันว่าต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีกในยุคโบราณกว่า2,000 ปีมาแล้ว และนิยมในฝรั่งเศสศตวรรษที่ 14 -19 ซึ่งสังคมนั้นมันชั้นสูงมากๆ แบบใครผิวดำถือว่าเป็นคนไม่มีเงิน(เพราะคนผิวดำมักทำงานหนัก คนผิวขาวไฮโซไม่ต้องทำงาน) ซึ่งคนดังที่ใช้แป้งข่าวทานั้นก็มีสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ



ทำไมมันถึงน่ากลัว?

แน่นอนเพราะมันมีส่วนประกอบของตะกั่ว ซึ่งทางอนามัยโลก จัดเป็นวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอยู่แล้ว โดยลีด เมคอัพเครื่องสำอางโบราณนั้นมี ส่วนประกอบคือตะกั่วขาวผสมกับขี้ผึ้ง ไขมันสัตว์ น้ำมันและไข่ขาว ซึ่งสารตะกั่วนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้เบื่ออาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน มึนงง แขนขาชา ตาบอด และหายใจไม่ออก บางครั้งอาจเสียชีวิตได้ หรือถ้าร่างกายสะสมตะกั่วมากๆ อาจเป็นมะเร็งได้

โดยในปี 1760 Marie Gunning สตรีชั้นสูงชาวไอริชที่มีชื่อเสียงในด้านหน้าขาวของเธอกลายเป็นเหยื่อรายแรกของการใช้สารตะกั่วพิษ และในปี 1878 คุณนาย Madame Rachel,ก็ตายเพราะพิษของตะกั่วที่ทาบนหน้าเช่นกัน


_________________
ขึ้นไปข้างบน
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ชมเว็บส่วนตัว
kwang-jitpisut
Dek_AV5_ตัวจริง


เข้าร่วม: 13 Jan 2009
ตอบ: 44
ที่อยู่: ร้านใครหนออร่อยนะค่ะเพื่อนๆ

ตอบตอบเมื่อ: Thu Apr 23, 2009 5:09 am    เรื่อง: ตอบโดยอ้างข้อความ

โอ้โห....สาวๆสมัยก่อนน่ากลัวจัง

สวยเสี่ยงตายกันทั้งนั้น แต่ไม่น่าเชื่อนะ
ว่าอันดับหนึ่งเสี่ยงตายที่สุด...เป็นแฟชั่นของผู้ชายนะ



อันดับ 1เดอะ สตีฟ ไฮ คอลล่า (The Stiff High Collar)


เป็นคอเสื้อแข็งๆ ใส่เพื่อให้ปกเสื้อสูงขึ้น นิยมใช้กับผู้ชายในศตรรษที่ 19 โดยคอเสื้อจะเป็นสีขาว เวลาใส่ก็เอาชุดเชิ๊ตมาใส่ทับอีกที ทำให้เหมือนเป็นคนขี้โอ่ มีอำนาจ โดยบุคคลสำคัญที่ใส่ก็มี ออสกา ไวลด์Oscar Wildeนักประพันธ์อังกฤษ







ทำไมมันถึงน่ากลัว?

ที่เยอรมัน, เดนมาร์ก และดัชท์ เรียกเจ้าปลอกคอนี้ว่า"พ่อมือสังหาร father killer " ซึ่งดูรูปร่างคงจะทราบแล้วมั้งว่ามันน่ากลัวยังไง คือมันทำให้ทำให้คนสวมหายใจลำบากและอึดอัดที่ลำคอเพราะมันค่อนข้างบีบรัดคอพอสมควร ซึ่งคนสวมมักเสียชีวิตในขณะใส่ชุดนี้ตอนเวลานอนและพอมันรัดคอคนสวมมักตายเพราะขาดอาการหายใจอย่างไม่รู้ตัว และทำให้เกิดฝีในสมอง เวลากินข้าวก็ผ่านลำคอยากแต่ที่ร้ายสุดๆ คือมันเหมือนกิโยตินแบบพกติดตัวคือในปี 1800 ชายคนหนึ่งหัวขาดเพราะคอเสื้อไปเกี่ยวกับรถขณะวิ่งมาแล้ว

อือหือ อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างค่ะ
ทำไมต้องลำบากขนาดนั้นเนอะ หนุกวางว่าดูแลสุขภาพมันสำคัญกว่าความสวยนา
เผลอๆคนสุขภาพดีอาจจะหล่อสวยกว่าคนทรมานแต่งกายอย่างนั้นก็ได้
(หน้าไม่บูดเบี้ยว อิอิ)

ทำไมแฟชั่นอันตรายที่ว่านี่...ส่วนใหญ่อยู่อังกฤษกับฝรั่งเศสกันมากกว่านา -_-"" เอเชียมีจีนแจมคนเดียวเอง (แน่ละ เล่นชะเท้าไม่เป็นเท้าคนอย่างงั้น)
ความจริงกะเหรี่ยงคอยาวบ้านเราก็เข้าข่ายนะ เพราะมันไปกดให้กระดูกใต้คอหรือแถวๆไหปลาร้าต่ำลง เลยทำให้คอดูยาวขึ้น
แต่มันไม่เคยทำให้บาดเจ็บร้ายแรงหรือถึงตาย...ก็เลยไม่นับมั้ง

หรือใครอยากลองทำ...ส่งรูปมาให้กองประกวดคนทำตัวแปลกได้นะจ๊ะ อิอิ

เครดิตจ้า

ภาษาไทยที่มาข้อมูล : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1235360

หรืออยากจุใจกับภาษาอังกฤษ : http://www.cracked.com/article_16997_6-popular-fashion-trends-that-killed-people.html


เราเอามาจากเว็บอื่นที่เราชอบตั้งกระทู้บ่อยๆน้า เราชอบตั้งกระทู้ 5555+ Mr. Green
_________________
ขึ้นไปข้างบน
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ชมเว็บส่วนตัว
k_a_r_n
ผู้ดูแล


เข้าร่วม: 13 Jan 2009
ตอบ: 96

ตอบตอบเมื่อ: Mon May 04, 2009 3:50 pm    เรื่อง: ตอบโดยอ้างข้อความ

น่ากลัวจริงๆๆๆๆ
_________________

ขึ้นไปข้างบน
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:   
สร้างหัวข้อใหม่   ตอบ    ๏Arunvithaya"5"๏ -> ความรู้ต่างๆ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จาก 1

 
ไปที่:  
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน


World of Warcraft phpBB template "WoWMoonclaw01" created by MAËVAH (EU-Illidan) - ex-MOONCLAW (EU-Sinstralis) (v1.06) - http://www.wowcr.net/templates
© World of Warcraft and Blizzard Entertainment are trademarks or registered trademarks of Blizzard Entertainment, Inc. in the U.S. and/or other countries. wowcr.net is in no way associated with Blizzard Entertainment.
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group

Free Web Hosting | File Hosting | Photo Gallery | Matrimonial


Powered by PhpBB.BizHat.com, setup your forum now!
For Support, visit Forums.BizHat.com